เคยสงสัยไหมว่า ทำไมองค์กรต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ยั่งยืนอยู่ได้ โดยไม่ต้องโฆษณา ? แล้วสำหรับองค์กรที่ยังไม่มี CSR ควรเริ่มต้นอย่างไร ? กระเป๋าผ้า มีบทบาทในการทำ CSR อย่างไรบ้าง ? CSR ( Coporate Social Responsibility ) “ หมายถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมของ

องค์กร ซึ่งคือการดำเนินกิจการภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี โดยรับผิดชอบสังคมและสิ่งเเวดล้อม ทั้งภายในและภายนอกองค์กร อันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ”

โดยหัวใจหลักของการทำ CSR ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจาก การวางแผนการตลาดขององค์กร ที่หวังจะบรรุลเป้าหมายทางธุรกิจ คือ กำไร , ชื่อเสียง , ภาพลักษณ์ เป็นต้น ก่อนจะเริ่มทำ CSR ต้องวิเคราะห์ก่อนว่า ลูกค้าของเราเป็นใคร ? มีพฤติกรรมอย่างไร ? อะไรคือแรงจูงใจ ในการบริโภคสินค้าหรือบริการของเรา ?  

แต่การทำ CSR เป้าหมายหลักคือ การดำเนินงานให้เป็นที่ยอมรับของสังคม และกลุ่มเป้าหมาย ยังต้องคำนึงอีกว่า กลุ่มสังคมเป้าหมาย มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอย่างไร ? และมีความคาดหวังอย่างไรบ้างกับองค์กร นอกจากนี้ในการทำ CSR ต้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ( Stakeholders ) ได้แก่ เจ้าขององค์กรหรือผู้ถือหุ้น , พนักงาน , ลูกค้า , Partner , ชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้น รูปแบบการทำ CSR หรือกิจกรรมต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำ CSR ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความสนใจ และความคาดหวังที่แตกต่างกัน

 

ทำไมองค์กรต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ยั่งยืนอยู่ได้ โดยไม่ต้องโฆษณา ?

เมื่อเทียบกับความยั่งยืนในสมัยก่อน มักจะที่มุ่งเน้นไปที่ กำไรขององค์กร ทำอย่างไรให้มีกำไรต่อเนื่อง แต่ในปัจจุบัน มีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลง นอกจากเน้นกำไรของธุรกินแล้ว มีการใส่ใจถึง ความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ควบคู่ไปด้วย

 

จากคำกล่าวของ นายโคฟี อันนัน อดตเลขาธิการสหประชาชาติ ที่ว่า “ ธุรกิจไม่สามารถสำเร็จได้ ในสังคมที่ล้มเหลว ” เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ของการทำ CSR ไม่ใช่เพียง เพื่อให้กิจการมีความยั่งยืน แต่ทำให้สังคมโดยรอบเกิดความยั่งยืนไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากธรรมชาติ เช่น เกษตรกรรม , อุตสาหกรรม , การบริการ สามารถทำ CSR ด้วยการตอบแทนระบบนิเวศ เช่น การปลูกป่าทดแทน , การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ , การอนุรักษ์ดิน , การอนุรักษ์แหล่งน้ำ เป็นต้น

ในปัจจุบัน การทำ CSR พัฒนาเข้าสู่แกนหลักของธุรกิจ ( Core Business ) มากขึ้น หลายองค์กรเริ่มตระหนักเห็นถึงความสำคัญ ของการทำ CSR โดยเริ่มจาก เป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารความเสี่ยง หรือผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้น กลายมาเป็น เครื่องมือในการสร้างโอกาส โดย CSR จะแทรกเข้าไปอยู่ในกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ เราจะเห็นได้จากตัวอย่าง สินค้าที่ผลิตจากวัสดุลดโลกร้อน เช่น ถุงผ้าลดโลกร้อน , กระดาษรีไซเคิล , กระดาษย่อยง่าย ฯลฯ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความยั่งยืน โดยไม่ต้องโฆษณาองค์กรแต่อย่างใด

 

สำหรับองค์กรที่ยังไม่มี CSR ควรเริ่มอย่างไร ?

แท้จริงแล้วต้องถามว่า มีเรื่องใดบ้าง ที่องค์กรของเราต้องทำ CSR ต้องทำการสำรวจกิจกรรมที่เราทำอยู่ เพื่อจำกัดกิจกรรม CSR ให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มสังคมเป้าหมาย นอกจากนี้ยังช่วยให้เราต่อยอด ขยายผลได้ง่ายกว่าการเริ่มจาก ศูนย์

หลักการง่าย ๆ ที่ช่วยพิจารณาว่าจะทำ CSR ได้แก่


 

  1. เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น หรือสิ่งแวดล้อม
    ตามที่เราพบเห็นทั่วไป โรงงาน / หรือบริษัท ที่มีการปล่อยสารพิษ ของเสีย หรือการสร้างมลพิษให้กับชุมชน เป็นต้น กรณีนี้ ตามกฏหมายแล้ว ต้องทำ CSR ร่วมกับการเคารพกฏหมายด้วย  คงจะยากถ้าจะพูดว่า ไม่มีเรื่องใดที่องค์กรทำ แล้วไม่กระทบต่อผู้อื่น เช่น หากองค์กรต้องการเลิกจ้างพนักงาน เหตุมาจากเศรษฐกิจซบเซา ต้องทำการจ่ายชดเชยตามกฏหมายให้พนักงาน ถือว่า เป็นการรับผิดชอบต่อสังคมในองค์กร แต่เราสามารถทำวิธีการอื่น ที่ไม่ต้องลดจำนวนพนักงานลงได้ อาทิเช่น การลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ก็เป็นหนึ่งวิธีในการทำ CSR ต่อสังคมภายในองค์กร เช่นกัน

  2. การดำเนินการรับผิดชอบ ต่อผู้ที่มีส่วนได้เสียในองค์กร
    แท้จริงแล้วการทำ CSR ควรเริ่มจากภายในองค์กรเสียก่อน ได้แก่ พนักงาน , ลูกจ้างรายวัน , ผู้รับเหมา , หรือผู้รับจ้างทำงาน ตัวอย่าง การทำ CSR ขั้นพื้นฐานที่เราควรรู้ คือ การมีความรับผิดชอบในการจ่ายเงินเดือน หรือค่าตอบแทนให้ตรงเวลา , การจัดสภาพแวดล้อม ให้ดีต่อสุขภาวะและปลอดภัย สำหรับ ผู้บริหารหรือผู้จัดการ การทำ CSR คือ การจัดวางระบบการบริหารอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีโคร่งในการบริหารที่ดี ตามข้อกฏหมายที่กำหนดไว้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นพื้นฐาน ในการบูรณาการ CSR โดยเริ่มจากการทำ CSR ภายในองค์กรให้แข็งแรงก่อน จากนั้นค่อยเริ่มทำ CSR กับสังคมภายนอกองค์กรต่อไป

 

ประโยชน์ของการทำ CSR

  1. ราคาหุ้น และโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นที่ต้องการของนักทุน เพราะปัจจุบัน ธุรกิจหรือองค์กรที่มี CSR เป็นการลงทุนที่ยั่งยืน ( Sustainable Investment ) มูลค่าสูงกว่า 30.68 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  1. ได้พนักงานที่มีความสามารถ เกิดความภาคภูมิใจในองค์กร ทำงานอย่างมีความสุข อาจเกิดการเชิญชวนบุคลากรที่คุณภาพมาเข้าร่วมกับองค์กรได้
  1. รายได้ และส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น หลายครั้ง ที่ลูกค้ามักจะพิจารณา ก่อนการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ จากกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ขององค์กรดังกล่าว
  1. ลดรายจ่ายของกิจการ เช่น การรณรงค์ลดการใช้ไฟฟ้า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงทุน เพื่อสร้างโรงไฟฟ้า หรือแหล่งผลิตไฟฟ้าใหม่ เป็นต้น
  1. ยกระดับผลิตภัณฑ์ และภาพลักษณ์องค์กร
  2. เผยแพร่รายงานกิจการ ได้ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม


กระเป๋าผ้า มีบทบาทในการทำ CSR อย่างไรบ้าง ?

ต้องบอกก่อนเลยว่า ทิศทางของการทำ CSR ในปี 2562 ตามรายงานของ The Power of Sustainability ซึ่งหลายหน่วยงาน ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน และตระหนักถึงความรับผิดชอบ ต่อสังคมขององรค์กร โดยมีประเด็นที่สำคัญ ที่เป็นการโอกาสและสร้างความท้าทาย ให้กับองค์กรได้ 6 ทิศทาง ดังนี้

  1. The Rise of Waste - Free Campaign : แปลงขยะ ( Waste ) ปลายทาง ให้กลับมาเป็นวัสดุ ( Materials ) ต้นทาง
  2. Inclusive Supply Chain : เปลี่ยนบทบาทผู้ด้อยโอกาส จากการเป็น ‘ ผู้รับมอบ ’ ความช่วยเหลือ มาเป็น ‘ ผู้ส่งมอบ ’ ในสายอุปทาน
  3. The Shift to the SDG Economy : เคลื่อนย้ายสู่ระบบเศรษฐกิจที่ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
  4. Investment in the Third Dimension : เปิดโลกทัศน์การลงทุน จาก Risk - Return Profile ไปสู่การเพิ่มมิติที่เป็น Real World Impact
  5. Impact is the New AccountAbility Principle : ใช้หลักการ Account Ability เพื่อจัดการ Sustainability อย่างบูรณาการ
  6. Sustainability S-Curve : ยกระดับจากกลยุทธ์ความยั่งยืน ( Sustainability Strategy ) ไปสู่กลยุทธ์ที่ยั่งยืน ( Sustainable Strategy )

 

สำหรับกระเป๋าผ้า ถือเป็นการทำ CSR แบบ The Rise of Waste - Free Campaign โดยจะหมายรวมตั้งแต่การส่งเสริมลดการใช้ผลิตภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง , การทดแทนบรรจุภัณฑ์เดิม , และการใช้บรรจุภัณฑ์ซ้ำ ซึ่งธุรกิจดัง ๆ หลายแบรนด์ หันมาสนใจและใส่ใจการลดโลกร้อน ด้วยการใช้ถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้า แทนการใช้ถุงพลาสติก เช่น การที่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ ที่ลดการใช้ถุงพลาสติก ด้วยการงดแจกถุงพลาสติกในวันที่ 4 ของทุกเดือน , การแจกถุงผ้า ตามร้านเสื้อผ้าต่าง ๆ ฯลฯ

 

นอกจากนี้แล้ว ประโยชน์ของการใช้ถุงผ้า ในการทำ CSR สำหรับองค์กร ได้แก่

  1. สามารถเข้าถึงกลุ่มสังคมเป้าหมาย ได้ทุกเพศทุกวัย :

    เพราะกระเป๋าผ้า สามารถใช้ได้ไม่จำกัด ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับ การออกแบบกระเป๋าผ้า และการใช้กระเป๋าผ้า ในการออกแบบกระเป๋าผ้า เพื่อการทำ CSR เน้นการผลิตกระเป๋าผ้า ที่สามารถใช้งานได้หลายโอกาส เช่น ถุงผ้าช้อปปิ้ง , กระเป๋าผ้าสะพายข้าง , ถุงผ้าใส่เอกสาร , กระเป๋าผ้าสะพายหลัง ฯลฯ ซึ่งเราสามารถเลือกขนาดและเนื้อผ้า ได้ตามที่เราต้องการ ( ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : 6 เนื้อผ้าที่นิยมใช้ทำกระเป๋าผ้า )

  1. เป็นสิ่งของที่สามารถใช้งานได้นาน :

    ด้วยจุดประสงค์ของการกระเป๋าผ้า ที่เน้นการใช้งาน จ้องมีความแข็งแรง ทนทาน จึงทำให้ส่งผลให้ การทำ CSR มีประสิทธิภาพขึ้น ในการสั่งผลิตกระเป๋าผ้า ต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ทนทานของกระเป๋าผ้าด้วย เพราะจะแสดงถึงความใส่ใจ ในเลือกสรรวัตถุดิบ เพื่กระเป๋าผ้า CSR ขององค์กรได้เป็นอย่างดี หากเราเลือกใช้วัสดุที่ไม่ดี ไม่มีความทนทาน ในการผลิตเป็นกระเป๋าผ้า อาจทำให้กลุ่มลูกค้า รู้สึกไม่พึงพอใจ และอาจจะทำให้ไม่สนับสนุนสินค้า หรือบริการเราต่อไป

  1. ราคาถูก กว่ากิจกรรม CSR อื่น ๆ :

    สำหรับกระเป๋าผ้า CSR เหมาะอย่างยิ่งที่จะเน้นแจก เพื่อการทำ CSR อย่างทั่วถึงในกลุ่มลูกค้า และยังช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิตด้วย เมื่อเราสั่งผลิตในปริมาณมาก เมื่อเทียบกับสิ่งของ CSR อย่างอื่น นอกจากนี้ หากเราเลือกโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ในการผลิตกระเป๋าผ้า ย่อมทำให้กระเป๋าผ้า CSR ของเราออกมาสวย ดูดี เหมาะสมกับองค์กร ( ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : รู้ได้อย่างไร ? ว่า ควรเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าแบบไหน มาผลิตกระเป๋าผ้าให้คุณ )

  1. สามารถสื่อสาร ข้อความ หรือ Campaign ขององค์กรได้อย่างครบถ้วน :

กระเป๋าผ้า มีพื้นในการใส่ข้อความหรือรูปภาพ ที่เป็นข้อความสำคัญ ในการสื่อสารขององค์กรได้ เช่น ชื่อแคมเปญ , ชื่อองค์กร , ชื่อสินค้า , โลโก้ ฯลฯ  เราสามารถเลือกใช้ขนาดของข้อความ หรือรูปภาพที่จะใช้ ได้ตามความเหมาะสม กับการออกแบบกระเป๋าผ้า ( ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ : การวางตำแหน่งโลโก้บนกระเป๋าผ้าอย่างไรให้ดู คูลล์ มีรสนิยม )

  1. กระเป๋าผ้า เครื่องที่ช่วยประชาสัมพันธ์องค์กรได้ :

    อย่างที่กล่าวไปว่า กระเป๋าผ้าสามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย เพราะฉะนั้น บุคคลที่ใช้กระเป๋าผ้าสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ตามท้องถนน เปรียบเสมือนการประชาสัมพันธ์แบรนด์ องค์กรแบบเคลื่อนที่ หากเราต้องการทำให้มองเห็นว่า กระเป๋าผ้านี้ เป็นขององค์กรของเรา แนะนำให้ใช้สีประจำองค์กร เป็นสีพื้นกระเป๋า เพราะจะทำให้ผู้คนมองเห็นได้ง่าย อีกทั้งการใช้โลโก้ หรือข้อความที่มีขนาดใหญ่ชัดเจนด้วย ถือเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ ที่มีต้นทุนต่ำ และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru

Line : @designguru

Tel : 088 - 653 - 2999