กาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่มแต่มันคือ lifestyle ของคนที่ดื่มกาแฟ สร้างแบรนด์ด้วย coffee griptok ของสะสมมัดใจลูกค้าโอกาสทองของธุรกิจ ที่ควรสร้างแบรนด์ผ่านของพรีเมี่ยมสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าคอกาแฟ เพราะการดื่มกาแฟเป็นเหมือนรสนิยม ร้านกาแฟจึงเป็นพื้นที่ที่มากกว่าร้านกาแฟ แต่เป็นพื้นที่ที่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมของคนยุคใหม่ 

อีกทั้งวิวัฒนาการของร้านกาแฟในปัจจุบันก็ต่างจากรูปแบบร้านกาแฟสมัยก่อน ที่มาในรูปแบบของรถเข็นเน้นความสะดวก ราคาถูก ไม่มีการยึดติดในตัวแบรนด์ ไม่จำเป็นต้องมีสมาชิก ไม่มีการกระตุ้นกิจกรรมทางการตลาด เหมือนยุคปัจจุบันซึ่งร้านกาแฟจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ 

และร้านกาแฟกลายเป็นพื้นที่ทำงาน พื้นที่ประชุมงาน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานแบบ work from home เป็น work from cafe มากขึ้น ร้านกาแฟยังเป็นพื้นที่พักผ่อน พื้นที่เช็คอินของวัยรุ่น พื้นที่ติวหนังสือ พื้นที่พบปะเพื่อนฝูง และที่สำคัญร้านกาแฟดีๆ กลายเป็นที่ที่หลายครอบครัวใช้เวลาด้วยกัน ร้านกาแฟจึงเปรียบเสมือน lifestyle ของผู้ที่ใช้บริการ

ในเมื่อพื้นที่ร้านกาแฟคือพื้นที่ที่คนจำนวนมากเลือกที่มาใช้เวลา การสร้างมูลค่าจากการใช้เวลาในร้านกาแฟจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ลองใช้ไอเดียต่อยอดไม่ว่าจะเป็นการสร้างเรื่องราว การสร้างบรรยากาศภายร้าน และบริการเสริมที่สามารถสร้างรายได้ต่อยอดได้

ดังนั้นในฐานะของผู้ประกอบการร้านกาแฟการเปลี่ยนจุดแข็งเป็นโอกาส หนึ่งในไอเดียที่แนะนำ คือ การเพิ่มไอเท็มต่อยอดสินค้าเช่น Griptok ที่ติดมือถือน่ารัก ๆ สำหรับเป็นของที่ระลึก ของพรีเมี่ยม ของสะสม ให้กับลูกค้าที่มาใช้พื้นที่ การที่ลูกค้ามาใช้เวลาในร้านกาแฟถือว่าเป็นพื้นที่เป็นสื่อชั้นดีสำหรับการกระตุ้นยอดขายของเรา

10 ไอเดีย coffee griptok สร้างแบรนด์กาแฟของสะสมมัดใจลูกค้า

นอกจากรสชาติ กลิ่นที่หอมของกาแฟที่มัดใจลูกค้าให้ติดใจแบรนด์กาแฟหรือร้านกาแฟของเราได้แล้ว ความน่าสนใจของธุรกิจร้านกาแฟยังมีเสน่ห์มากมายที่ทำให้เหล่าคอกาแฟหลงใหล ซึ่งไอเดียต่างๆเหล่านี้สามารถต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆได้ หรือเป็นของพรีเมี่ยมให้สมาชิกได้สะสมได้ติดตาม 

และมีร้านกาแฟจำนวนไม่น้อยที่สามารถสร้างรายได้เสริมจาก ผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดทางการตลาดและของพรีเมี่ยม เช่น แก้วมัค กระเป๋าผ้า รวมถึง Griptok ติดหลังมือถือ จากการเพิ่มมูลค่าที่เริ่มจากไอเดียเล็กๆ เป็นไอเดียที่ลูกค้าได้จดจำ กับ 10 ไอเดีย coffee griptok สร้างแบรนด์กาแฟของสะสมมัดใจลูกค้า

  1. ไอเดียจากลายลาเต้ (latte art) คือศิลปะของงานกาแฟที่คอกาแฟชื่นชอบ รสชาติกาแฟลาเต้อร่อย กลิ่นหอมอาจจะมัดใจให้ลูกค้าอยากดื่ม แต่อาจจะไม่มากพอที่ทำให้ลูกค้าบอกต่อได้ ซึ่งลวดลายลาเต้สวยๆ ถือเป็นไอเดียที่สร้างการจดจำให้ผู้ดื่มอยากกดชัตเตอร์ เอากล้องเอามือถือมาถ่ายอวดผู้คนในโลกโซเซียล


    แต่ถ้าหยุดความสวยงามของลายลาเต้เพียงกาแฟที่อยู่ในถ้วยก็คงเสียดาย ลองเอาลายลาเต้สวยๆ มาต่อยอดเป็นของที่ระลึกง่ายๆ อย่างที่ติดมือถือ Griptok ที่นอกจากจะเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าใช้งานมือถือได้ง่ายขึ้น ยังทำให้ศิลปะของลายกาแฟที่เราบรรจงทำในแต่ละแก้วไม่เลือนหายหลังจากที่ลูกค้าดื่มด่ำกาแฟไปแล้ว 


    ซึ่งสำหรับร้านผลิตที่ติดมือถือ Griptok หรือ Popsocket เองก็มีความหลงใหลในลวดลายของลายลาเต้ เพราะลายลาเต้ที่มีต้องมีความคมชัดของลาย ความสมดุลย์ของภาพที่เกิดขึ้น รวมถึงคุณภาพของกาแฟ และความเหมาะของฟองนม ที่ทุกอย่างต้องผสมผสานอย่างเหมาะสมจึงได้ เป็นกาแฟลาเต้ที่มีลายอาร์ตสวยๆ รวมถึงประสบการณ์ของ Barista



    การผลิต Griptok ลายลาเต้อาร์ตก็เช่นกัน ต้องมีความคมชัด งานออกแบบต้องมีความรู้สึกอบอวลด้วยความรู้สึกของการดื่มกาแฟ ความละมุนของลายที่สอดคล้องไปกับโลโก้ แบรนด์ ของร้านกาแฟ และถ่ายทอดความเป็นตัวตนของร้านกาแฟนั้นให้ได้มากที่สุด นักออกแบบ Griptok ของร้านจึงต้องเข้าใจหัวอกของคอกาแฟเป็นอย่างดี เช่น ลายหัวใจ (Heart) , ทิวลิป (Tulip) และใบไม้ (Rosetta)



  2. ไอเดียจากภาพเมนูและชื่อเมนู เคยไหม ? ที่เมื่อนึกถึงเครื่องดื่มเมนูนี้ต้องร้านนี้เท่านั้น นั้นแสดงว่าเมนูเครื่องดื่มที่เป็นสูตรลับเฉพาะของร้านกาแฟ ถือว่าเป็นสิ่งที่มูลค่าของร้าน การออกแบบเมนูถือเป็นอีกศิลปะที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับทางร้าน


    บางร้านจะมีวิธีการตกแต่งเครื่องดื่มที่ดูแล้วเป็น signature ของทางร้าน รวมถึงลิสเมนูอาหารที่มีชื่อไม่ซ้ำกันกับร้านอื่นๆ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและติดตาม ซึ่งตัวเมนูและชื่อเมนูก็สามารถต่อยอดนำมาผลิตเป็นของสะสมให้กับสมาชิกได้เช่นกัน 

    เช่น ในช่วงฤดูกาลต่างๆ อาจมีเมนู signature เฉพาะช่วงฤดูกาลนั้นๆ อย่าง เช่น cream cheese coffee , everyday mocha , sweet summer เป็นต้น ซึ่งการมีของพรีเมี่ยมพิมพ์ลายเมนูกาแฟ ลงบนสินค้า Griptok พิมพ์ภาพกาแฟสวยๆ เก็บไว้ ก็ทำให้ลูกค้าที่ได้เคยลองดื่มนึกถึงรสชาติ และหวนหาที่กลับมาดื่มอีกครั้งเมื่อฤดูกาลนั้นมาถึง


    นอกจากนี้ของพรีเมี่ยมอย่าง Griptok ที่ติดหลังมือถือ ยังเป็นของที่ระลึกดีๆ ที่ชวนให้ลูกค้าคอกาแฟได้ร่วมกิจกรรมสนุก พร้อมสั่งเมนู signature ได้ เพราะความพิเศษที่นอกจากจะเป็นเมนูพิเศษ ยังได้ร่วมสนุกรับของขวัญเล็กๆ น้อยให้ได้สะสมอีกด้วย 


    ด้วยดีไซน์ของที่ติดหลังมือถือพิมพ์หลายอย่าง Griptok หรือ Pop socket สามารถเลือกเอาภาพจริงมาพิมพ์ลงบนสินค้า พร้อมข้อความ เมนู หรือจะเป็นงานลายเส้นกราฟฟิกก็ได้ เพราะตัวกริ๊บต๊อกมีข้อดีคือพิมพ์ได้ไม่จำกัดสี ในขนาด 4*4 cm.



  3. ไอเดียจากลายเม็ดกาแฟหรือต้นกาแฟ เป็นอีกไอเดียที่อยู่รอบๆตัวที่สามารถนำมาออกแบบที่ติดหลังมือถือได้แบบดูดีมาก กับลวดลายธรรมชาติของส่วนผสมของเม็ดกาแฟและต้นกาแฟ เช่น รูปร่างของเม็ดกาแฟ ใบกาแฟ รูปต้นกาแฟ ที่บ่งบอกถึงที่มาของกาแฟของร้านเราว่าพิถีพิถัน ตั้งแต่ต้นน้ำคือการเลือกวัตถุดิบ คั่วในระดับความร้อนที่ต่างกัน ก็ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ต่างกัน 


    ความเป็นศิลปะตรงนี้ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวชั้นดี ที่ควรส่งต่อเพื่อพัฒนาเป็นสินค้าอื่นๆ ต่อยอดได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ และเพิ่มช่องทางรายได้เสริมให้กับร้านกาแฟได้ เช่น การผลิต Griptok พรีเมี่ยม รูปภาพเม็ดกาแฟแต่ละระดับ หรือแม้กระทั่งพิมพ์ภาพกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ลงบนที่ติดมือถือให้คอกาแฟพันธุ์แท้ได้สะสม เพราะแฟนตัวจริงเท่านั้นที่จะเข้าใจความรู้สึกนี้


    หรือสามารถนำ Griptok พิมพ์ลายสายพันธุ์กาแฟพร้อมโลโก้แบรนด์ เพื่อเป็นของขวัญร่วมสนุกให้ได้ทายปัญหา ซึ่งการผลิตที่ติดมือถือ Griptok พิมพ์ลายได้ง่ายลายไหนก็ได้ แถมคละลายได้ เพียงขั้นต่ำ 100 ชิ้น


    ร้านกาแฟจึงสามารถพิมพ์ลายให้ลูกค้าได้ทายคำถามสนุก เช่น รูปกาแฟบนกริ๊บต๊อกเป็นลายกาแฟพันธุ์อะไรหรือคั่วระดับไหน เช่น light roast , medium roast หรือ dark roast และสะสมให้ครบทุกคอลเล็กชั่น เป็นการยกระดับคอกาแฟจากเพียงแค่ดื่มเป็นผู้รู้จริง เพื่อกระตุ้นการจดจำตอกย้ำความเป็นแฟนพันธุ์



  4. ไอเดียจากบรรยากาศร้าน คือไอเดียการผลิตกริ๊บต๊อกจากการถึงคุณค่าของบรรยากาศภายในหรือภายนอก หรือมุมที่ลูกค้าสามารถเช็กอินได้ มาเป็นไอเดียพิมพ์ลายบนสินค้าที่ติดมือถือ Griptok ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของร้านที่เราเอามาให้คุ้มค่ามากขึ้น


    การดึงเอกลักษณ์ของร้านกาแฟ เช่นการเอาบรรยากาศของร้านกาแฟมาใช้ต่อยอดเป็นเทคนิคที่มีความจำเป็นมาก เพราะด้วยปัจจุบันการเปิดตัวของร้านกาแฟมีจำนวนมากและมีการแข่งขันกันสูง การสร้างเอกลักษณ์การตกแต่งร้าน ตรีมร้านที่ชัดเจนพอที่จะให้คนที่มาใช้บริการนึกถึงได้ จะช่วยสร้างความแตกต่างที่คอกาแฟจดจำได้ทันที 

    การตอกย้ำภาพลักษณ์ของร้านในทุกๆ อนุ ทั้งบรรยากาศร้าน จานชาม เมนูอาหาร รวมถึงของพรีเมี่ยมจึงเป็นสิ่งที่ร้านกริ๊บต๊อกติดมือถืออย่างเรา ไม่อยากให้มองข้าม เพราะการออกแบบร้านกาแฟที่น่านั่ง เกิดจากการตกผลึกทางความคิดของงานดีไซน์ ทั้ง interior design งานโครงสร้าง งานออกแบบสื่อภายในร้าน ที่เป็นเสมือนแกลอรี่งานศิลปะชั้นดี 


    โดยเอกลักษณ์ทั้งหมดนี้สามารถเอามาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก เป็นเสื้อผ้า กระเป๋า แก้วน้ำ รวมถึง Griptok น่ารักๆ ที่พิมพ์รูปภาพบรรยากาศของร้านไว้ที่การ์ดรองกระดาษของที่ติดมือถือได้ ซึ่งสำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก ที่มีบรรยากาศน่ารักๆ สามารถเริ่มต้นมีของที่ระลึกเป็นของตัวเอง ผ่านที่ติดมือถือสวยๆ พิมพ์โลโก้ ได้ง่ายกว่าของพรีเมี่ยมอื่นๆ 

    เพราะร้านมีฐานลูกค้าอาจไม่มากนัก ซึ่งขั้นต่ำ 100 ชิ้น สำหรับการลองตลาดจึงเป็นจำนวนที่ไม่ได้สูงจนเกินไป และ Griptok ที่ติดหลังโทรศัพท์ เป็นของแจกที่ไม่จำกัดเพศไม่จำกัดวัย ไม่มีขนาดที่ต้องสั่งทำให้ยุ่งยาก จึงถือว่าเหมาะมากสำหรับเป็นของแจกร้านกาแฟเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่

  5. ไอเดียจากข้อความ วลีบอกความรู้สึก เช่น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อดื่มกาแฟ รู้สึกถึงบรรยากาศชิลๆ วันหยุด หรือข้อความให้กำลังใจจากการทำงานประจำวัน ตัวอย่างข้อความน่ารักๆ ที่สามารถเอามาใช้ เช่น เพราะกาแฟมันขม เลยต้องเติมนมเพื่อเจือจาง , ซดกาแฟให้ตาสว่าง จะได้มองอะไรให้กว้างขึ้น , ถ้าง่วงให้ดื่มกาแฟ แต่ถ้าหาคนเทคแคร์ให้มาหาเรา , ความรักก็เหมือนกาแฟ มีขมบ้าง หวานบ้าง แค่อย่าจืดจางก็พอ เป็นต้น


    จะเห็นได้ว่า การใช้วลีโดนใจมาเชื่อมโยงกับร้านกาแฟ สิ่งที่ตามมานอกจากการดื่มด่ำเรื่องรสชาติ คือความเพลิดเพลินขณะอ่านวลีดีๆ อีกทั่งคมคำยังสามารถช่วยให้กำลังใจผู้ที่มาใช้บริการ เพราะคนที่เข้ามาร้านกาแฟอาจต้องการใช้พื้นที่เพื่อผ่อนคลายจิตใจในอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป 

    ไอเดียนี้จึงเป็นไอเดียที่ดีที่เอามาต่อยอดหรือจัดพิมพ์เป็นการ์ด ของที่ระลึก รวมถึงที่ติดมือถือ Griptok ที่พิมพ์ข้อความโดนใจพร้อมพิกัดร้าน ให้ลูกค้าได้สะสม เพราะไม่แน่ว่าข้อความดีๆ จะช่วยเตือนสติ เตือนใจ คอแฟที่มาเยี่ยมเยือน ร้านกาแฟจึงเป็นเสมือนเพื่อน..ที่เหงาเมื่อไหรก็แวะมา..



  6. ไอเดียจากอุปกรณ์ร้านกาแฟ เช่น ทรงแก้วเครื่องดื่ม อุปกรณ์เครื่องชง เพื่อต่อยอดการตลาดเพื่อขายสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปในร้านเพื่อให้ลูกค้าที่ชอบในรสชาติของเรา ได้สามารถดื่มด่ำต่อได้ที่บ้าน อย่างกาแฟผง กาแฟเม็ด เครื่องชง แก้ว เป็นต้น


    เพราะบางร้านอาจมีสินค้านำเข้าที่หาซื้อได้ยากและมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว การออกแบบ Griptok ที่ติดมือถือร้านกาแฟจึงสามารถเป็นสื่อเสริมสำหรับแบรนด์ที่ต้องการโปรโมทสินค้าอื่นๆ ได้ อาจจะเป็นของแถมทำโปรโมชั่น สร้างแบรนด์ GRIPTOK ไอเดียน่ารักปังค์ทุกโมเมนต์ ที่ช่วยให้ลูกค้าติดตาและเข้าถึงแบรนด์สินค้านั้นได้ง่ายขึ้น

  7. ไอเดียจากโทนสีและโลโก้ร้าน การออกแบบโทนสีของร้านกาแฟ ก็ถือเป็นความท้าทายและเป็นโจทย์ให้เจ้าของร้านต้องทำการบ้านพอสมควร เพราะโทนร้านกาแฟส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นโทนขาว ๆ เรียบ ๆ การออกแบบโทนสีและโลโก้ร้านให้เหมาะสม ก็เป็นจุดเด่นที่สร้างจุดยืนของร้านได้ แต่โทนสีเหล่านี้ก็สามารถดึงมาพัฒนาต่อยอดในงานของสะสม ของพรีเมี่ยม ของร้านกาแฟได้ 


    ตัวอย่างตรีมสีที่เหมาะกับการใช้ออกแบบร้านกาแฟ ร่วมถึงนำมาใช้ผลิตของพรีเมี่ยม ของแจกร้านกาแฟ อย่าง Griptok เช่น โทนสีเขียวเข้ม โทนสีฟ้าเข้ม ที่ให้ความรู้สึกคลูท์เท่ห์ โทนสีของร้านบ่งบอกถึงความทันสมัยและรสนิยมของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี


    อีกทั้งการกำหนดโทนสีของร้านกาแฟยังบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของคอกาแฟด้วย ถึงแม้ว่าเป็นร้านกาแฟเหมือนกัน แต่เลือกใช้โทนสีต่างกัน กลุ่มลูกค้าก็อาจจะแตกต่างกัน เช่น การเลือกใช้โทนสีเข้ม อย่างสี navy blue , dark brown เป็นกลุ่มลูกค้าคอกาแฟวัยทำงาน หรือผู้บริหารที่มีระดับ เน้นความเรียบหรูเป็นกลุ่มที่ใช้เวลากับร้านกาแฟค่อนข้างมาก ซึ่งราคากาแฟต่อแก้วก็จะสูงตามไปด้วย 

    การออกแบบ Griptok พิมพ์ลายสำหรับแจกลูกค้ากลุ่มนี้ จึงต้องมีความเรียบๆ สบายๆ แต่คงเอกลักษณ์ของทางร้าน เพื่อให้ผู้รับเกิดความภาคภูมิใจ หรือ Brand royalty ที่อยากใช้ที่ติดมือถือ หรือ Griptok แบรนด์ร้านกาแฟจะเป็นของสะสมที่ลูกค้าอยากเก็บไว้เพื่อเป็นตัวแทนความทรงจำดีๆ ที่ได้มาใช้บริการ


    ตัวอย่างของตรีมสีและดีไซน์ที่เหมาะสำหรับนำมาใช้ผลิตกริ๊บต๊อก (Griptok) หรือที่ติดหลังมือถือเอาใจคอกาแฟ
    • Theme minimalist:  สีครีม ขาว เหลืองทราย น้ำตาลไม้โอ๊ค เทาชาโคล เป็นต้น ตัวอย่าง 8 คาเฟ่สไตล์มินิมอลในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล เน้นสีขาวคลีน เอาใจสายคุมโทน อ้างอิงโดย: tripgether


      เช่น Meth Studiocafe BKK , Flat Cafe Space , Autumn Haus , Luxe Cafe BKK , Chingu Cafe , Flat+White Cafe , COK Cream of The Koff , Modus 23 Cafe 


      ซึ่งร้านกาแฟที่ระบุมาจะดีไซน์ร้านด้วยสีขาวเป็นสีหลัก ดังนั้น หากทางร้านต้องการทำ Griptok เพื่อเป็นของพรีเมี่ยม ก็อาจจะใช้ความคลีน สว่างของสีขาว ตามด้วยสีน้ำตาล หรือดำ เป็นตัวอักษรหรือโลโก้ ก็จะทำให้ร้านกาแฟได้ collection ที่ติดมือถือพรีเมี่ยม ที่ดูคลูท์เข้ากับตัวคอนเซ็ปร้านได้ง่ายๆ

    • Theme summer sweet : แนวหวานซัมเมอร์ เช่น ชมพู ฟ้า เหลือง ส้ม เขียวเทอควอย สำหรับร้านผลิตที่จับหลังมือถือ Griptok มองว่ากาแฟก็เหมือนอุปนิสัยของคน ที่มีหลายบุคคลิก บางคนเปรี้ยวเฉี่ยว บางคนเข้มดุดัน แต่บางคนภายนอกดูดุดัน ดูเข้มคลึมแต่จริงมีเปรี้ยวหวานซ่อนอยู่ จึงมีความน่าค้นหา 


      จึงไม่ต่างจากรสชาติของกาแฟ การออกแบบของที่ระลึกของร้านกาแฟที่น่าสนใจก็ทำให้กลุ่มลูกค้าอยากค้นหา การออกแบบตรีมสไตล์หวานๆ เปรี้ยวแบบคนมั่นใจ ก็น่าจะเป็นดีไซน์ที่เหมาะกับการนำมาพิมพ์ลายบนที่ติดมือถือ หรือ Griptok น่ารัก ราคาถูก 

    • Theme oganic: แนวอนุรักษ์สายเขียวหรือออแกนิค เช่น เขียวเข้ม เขียวมัทฉะ เขียวมิ้นต์ หรือ ใส่ลายผิวสัมผัสเปลือกไม้ ใบไม้ ส่วนใหญ่ร้านกาแฟแนวนี้จะตกแต่งร้านให้เป็นสไตล์สวนป่า บรรยากาศจะห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ ให้ความร่มรื่นและชิวสุดๆ 


      ตัวอย่าง 7 ร้านกาแฟ บรรยากาศธรรมชาติสุดฟิน น่า Check In อ้างอิงโดย : ryoiireview เช่น Flowerpot Cafe , Emmie's , Daydream Believer , Little Hideout , On The River Cafe , Hidden Backyard , The 66 Cottage

      สำหรับทริปการออกแบบที่ติดมือถือของตรีมออแกนิคแนวนี้ ต้องดึงความกรีนความเขียวออกมาให้ได้มาที่สุด อารมณ์ของการดีไซน์ Griptok ต้องรู้สึกมีความเป็น Home made เช่น การใช้เส้นสายเขียวของใบไม้ ต้นไม้ จะเป็นเส้นสีเขียว น้ำตาลหรือสีดำก็ได้

    • Theme luxury : แนวหรูหรา เน้นเส้นสี ทอง เมทเทิลลิค เงิน โรสโกล ลายหินอ่อน มาใช้ตกแต่งบรรยากาศภายในร้าน รวมถึงอุปกรณ์ภายในร้าน ซึ่งโทนสีต่างๆ ที่อยู่ภายในร้านคือเอกลักษณ์ ที่แบรนด์หรือร้านกาแฟที่อยากผลิตของที่ระลึก อย่าง Griptok สั่งทำ การดึงไอเดียของโทนสี luxury จะทำให้ของที่ติดหลังมือถือดูมีมูลค่า ด้วยต้นทุนผลิตที่ราคาถูก

      ตัวอย่าง ร้านกาแฟสไตล์หรูหราลัคชูรี่ เช่น NANA Hunter Coffee Roasters (นานาฮันเตอร์ - พรานนก) เป็นร้านกาแฟแนวอินดัสทรี ใช้การตกแต่งสีเข้มดำ กับสีโรสโกล ดึงความน่าสนใจด้วยเอกลักษณ์ของเครื่องคั่วที่ได้เห็นกันสดๆ 



    • Theme chic : สีน้ำตาลกาแฟ สีเนวี่บลู (Navy blue) สีกาแฟคั่ว dark blown โทนสีนีออน นอกจากนี้คือการเอาคู่สีตัดกันทำให้เกิดอารมณ์ที่ต่างไปจากเดิม เช่น เหลืองชมพู เขียวดำ เป็นต้น 

      ตัวอย่างการออกแบบกริ๊บต๊อก พิมพ์ลายของร้านกาแฟแนวชิวสามารถดึงโทนสีของตัวอาหาร หรือตรีมร้านออกมาอยู่ในของฝากของพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าได้ มาทำให้ผู้ที่มาดื่มดำกาแฟ จดจำคุณได้มากกว่าเดิมผ่านของพรีเมี่ยมที่ใช้ได้ทุกวัน



    • Theme antique : แนวคลาสสิคดูเก่า น่าค้นหา เช่น สีเทา สีกาแฟ สีหนังสัตว์ ขาวดำ ลายเพทเทิล อย่าง ตารางหมากรุก หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก



  8. ไอเดียของผิวสัมผัส ( texture pattern) เพราะร้านกาแฟถือเป็นหนึ่งในแกลอรี่อาร์ต ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปดื่มด่ำเครื่องดื่มพร้อมงานศิลป์ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการพิมพ์ลายบน Griptok สามารถพิมพ์ลายได้เหมือนจริง texture หรือผิวสัมผัสของร้านก็มีความสวยงามที่จะทำให้มีการดึง texture ต่างๆ ฝาพนังสวยๆ ลายอิฐ หรือโต๊ะชงกาแฟหินอ่อนที่ตั้งตระหง่านกลางร้าน มาใช้ในการตกแต่งร้าน


    และผิวลายอื่นๆเช่น ผิวสัมผัสของลายไม้ ผิวสัมผัสลายหินอ่อน  ลายกำแพงอิฐเก่าๆ ลายผงกาแฟ ลาย ลายผิวสัมผัสของผงชามัทฉะ ทั้งหมดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของร้านแก่ผู้พบเห็น การดึงจุดเด่นนี้มาทำเป็นของพรีเมี่ยม ของแจกอย่าง Griptok ที่หลังมือถือให้ลูกค้าได้สะสมจึงเป็นไอเดียที่ดี

    เพราะเพียงออกแบบพื้นหลังด้วย texture ที่เป็นเอกลักษณ์กับโลโก้ที่ออกแบบมาอย่างดีแล้ว ก็ทำให้ร้านกาแฟมีคอลเล็คชั่นง่ายๆ ที่สร้างรายได้ สร้างการจดจำและเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสวยๆ ที่อยู่คู่กับร้านกาแฟนอกจากเมนูกาแฟเจ๋งๆ เพิ่มอีกด้วย



  9. ไอเดีย coffee สื่ออารมณ์ การออกแบบที่เอาดีไซน์ของแก้วกาแฟมาทำเป็นรูปภาพในอารมณ์ตา่งๆ เพื่อพิมพ์ลงบนกริ๊บต๊อก ช่วยเพิ่มที่คิดมือถือด้วยกริมมิคน่ารักๆ ให้ของที่ระลึกดูสะสม น่าซื้อหา เพราะการดื่มกาแฟก็มีวัตถุประสงค์เพื่อความผ่อนคลาย 


    ทริปเล็กๆ สำหรับการออกแบบ Griptok ที่จับหลังมือถือ ไอเดียเก๋ๆ แบบถ้วยกาแฟสื่ออารมณ์ จะมีคอนเซ็ป เช่น การวาดลายเส้นเพิ่มเติมให้เป็นรูปยิ้ม เศร้า อารมณ์สนุกๆ หรือจะเป็นแนวแรงบันดาลใจที่เรียกไอเดียให้มีพลังทำงานมากขึ้น เพราะร้านกาแฟปัจจุบันก็เป็นเสมือนที่ทำงาน ที่ 2 ที่ 3 สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิตไม่น้อย



    ไอเดียของการออกแบบที่ติดหลังมือถือ Griptok สื่ออารมณ์ คือการเอาไอเดียของรูปทรงแก้วมาจัดวางให้สื่อถึงดวงตา ที่เชื่อมต่อความรู้สึกของผู้ที่มาดื่มในอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเศร้า เหงา อกหัก ก็จะมีกาแฟดีที่คอยเยียวยาใจได้เสมอ 



  10. ไอเดียต่อยอดจากธุรกิจเดิมเป็นร้านกาแฟ โดยใช้ Griptok เป็นสื่อประชาสัมพันธ์แทนสื่อออฟไลน์รูปแบบเดิม เช่น พวกโปรชัวร์กระดาษ แผ่นพับ ด้วยการใช้ที่ติดหลังมือถือ กริ๊บต๊อกเล็กๆ ที่ใช้งานได้จริง ๆ เป็นสื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของตลาด



    ตัวอย่างแบรนด์ที่มีร้านกาแฟต่อยอดจากธุรกิจเดิม เช่น ปั้มน้ำมันปตท มีร้านกาแฟ Amazon  True shop ที่ให้บริการเครื่อข่ายมือถือ มีแบรนด์กาแฟแยกย่อยคือ True coffee   แบรนด์ Nescafé ที่ขายผงกาแฟสำเร็จรูป ที่เปิดแบรนด์ร้านกาแฟชื่อ Nescafé Street Café


    ซึ่งสามารถนำ Griptok เป็นของพรีเมี่ยมโปรโมทแบรนด์ เช่น พิมพ์ลายโลโก้บนตัวที่ติดมือถือเพื่อประชาสัมพันธ์ หรือใส่รายละเอียดโปรโมชั่นพร้อมช่องทางลงบนที่ติดมือถือ เพราะส่วนใหญ่ร้านเหล่านี้จะมีรูปแบบของแฟรนไชน์


    เพื่อให้ผู้ที่สนใจอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองได้ติดตาม ดังนั้นการสั่งทำที่ติดมือถือพิมพ์ลาย Griptok ในธุรกิจร้านกาแฟลักษณะนี้ จึงได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือ เป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ และมีโอกาสได้ลูกค้ากลับมาในรูปแบบการซื้อแฟรนไชน์ได้  

6 tricks การออกแบบการ์ดรอง Griptok ที่จับติดหลังมือถือ เอาใจลูกค้าคอกาแฟ

ถึงแม้ Griptok พิมพ์ลายจะเป็นไอเท็มหลักที่ต้องการเป็นของแถม ของพรีเมี่ยมที่แจกลูกค้าของร้านกาแฟ แต่รู้ไหมว่า ประโยชน์ของการ์ดรองกระดาษสำหรับที่ติดหลังมือถือ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ ไอเท็ม Griptok ดูแพงขึ้นได้ และตัวการ์ดรองกระดาษสามารถเพิ่มข้อมูลอื่นๆ ที่ร้านไม่ได้พิมพ์ในกริ๊บต๊อค แต่พิมพ์บนกระดาษรองแทนเพื่อให้ลูกค้าที่รับของแถมได้รู้จักเรามากขึ้น

  1. การจัดวางโลโก้บนกระดาษรอง เพราะโลโก้คือเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนของร้านมากที่สุด โลโก้จึงต้องดูเด่นและขนาดเหมาะสม เช่น มุมบน กลางบน หรือใต้กริ๊บต็อคในตำแหน่งที่มองเห็นชัดเจน

  2. โทนสีพิมพ์ เพราะโทนสีจะดึงดูดอารมณ์ของผู้รับให้นึกถึงความเป็นร้านกาแฟ ควรเลือกสีที่จะพิมพ์บนตัวการ์ด Griptok แบรนด์ที่ผลต่ออารมณ์ เช่น สีที่สะท้อนถึงความละมุน ความสนุก ความผ่อนคลาย หรือนึกถึงกลิ่นอายของกาแฟ จะช่วยให้ผู้ใช้งานที่ติดมือถือ หรือ Griptok มีความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ร้านได้ดีเมื่อใช้งาน

  3. การใช้ภาพประกอบที่สื่อถึงความเป็นร้านกาแฟ เช่น ลายเส้นอาร์ตเป็นถ้วยกาแฟ รูปภาพร้าน รูปเครื่องดื่ม เมนู signature แต่ถ้าแบบเรียบโทนสีต้องเป็นสีประจำแบรนด์ สำหรับร้านกาแฟที่ยังไม่ได้เป็นแบรนด์ดัง การพิมพ์การ์ดรองเพียงโลโก้อาจไม่เพียงพอ ภาพประกอบทำให้เชื่อมโยงโลโก้แบรนด์กับร้านกาแฟได้ดียิ่งขึ้น 

  4. ช่องทางติดต่อ ส่วนนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของการใช้พื้นที่การ์ดรอง Griptok ได้อย่างคุ้มค่า เพราะทางร้านผลิต griptok จะย้ำเสมอว่า ของพรีเมี่ยมที่ดีจะทำให้แบรนด์คุณกับลูกค้าคุณอยู่ใกล้กันกว่าที่คิด


    ช่องทางติดต่อจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ควรมองข้ามที่พิมพ์แทรกไว้ในงานของเรา ตัวอย่างการแทรกช่องทางการติดต่อ เช่น การเพิ่มไอคอน พร้อมชื่อ facebook , Line , IG หรือจะเป็น QR code คูลท์ๆ ลงบนการ์ดรอง Griptok ติดมือถือ ให้ลูกค้าแสกนหาร้านเรา เพื่อดูกิจกรรมต่างๆ ที่ทางร้านอับเดตลงไปได้สะดวก

  5. ขนาดที่เหมาะสม พื้นที่กระดาษรองทางร้านกำหนดไว้ที่ 6*8 cm. ซึ่งเป็นขนาดที่พอเหมาะกับสินค้าอย่างที่จับหลังโทรศัพท์มือถือ สวยๆ ขนาดกระดาษที่ไม่ได้ทำให้ Griptok พรีเมี่ยม ลดความน่าสนใจไป


    เป็นเสมือนองค์ประกอบที่ทำให้ของพรีเมี่ยม ของแจกร้านกาแฟ มีมูลค่ามากขึ้น เมื่อพูดถึงขนาดที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ขนาดกระดาษเท่านั้น ร้านผลิตกริ๊บต๊อค สำหรับลูกค้าคอกาแฟ เรายังอยากแนะนำ ไปถึงการวางดีไซน์ที่เหมาะสม

    ที่ทำให้ตัว Griptok กริ๊บต๊อคดูน่ารัก ดูเด่น ดูน่าสะสมขึ้น เช่น การเว้นพื้นที่ตรงกลางการ์ดตรงกลาง เพื่อเป็นพื้นที่วางสินค้า หรือการเลือกดีไซน์ตัวกระดาษให้มีเฉดที่อ่อนกว่า ตัว Griptok หรือ Pop Socket เพื่อให้สินค้าดูโดดเด่นออกมา

  6. คุณภาพของตัวการ์ดรอง คือ ส่วนของกระดาษที่เนื้อคุณภาพพิมพ์แล้วคมชัด งานพิมพ์ที่ชัดเจนสีสดตามต้องการ การเลือกไฟล์มาใช้สำหรับงานพิมพ์การ์ดรองที่ติดมือถือ Griptok ทางร้านผลิต Griptok ขอแนะนำ ให้ลูกค้าเลือกใช้ไฟล์รูปที่มีความละเอียดสูง เป็นสกุลไฟล์ ai , psd เป็นต้น

 

5 ทริปเล็กๆ สำหรับร้านกาแฟที่ผลิต Griptok ที่จับหลังมือถือเพื่อใช้กระตุ้นการตลาด

  1. ให้ griptok ขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยโลกโซเชียล : กริ๊บต๊อกที่ติดมือถือน่ารัก ๆ (griptok) เป็นของพรีเมี่ยมแจกกิจกรรมหน้าเพจได้ดี เพราะเป็นไอเท็มที่ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เล็กกระทัดรัดจัดส่งง่าย น้ำหนักเบา เพราะการแจกของกระตุ้นการมีส่วนส่วนร่วมถือเป็นต้นทุนทางการตลาดของแบรนด์

    และอีกต้นทุนที่เพิ่มตามมาคือ ต้นทุนการจัดส่งและการจัดเก็บ แต่ตัวกริ๊บต็อคหรือที่หลายคนใช้เป็นที่จับตัวป๊อบติดหลังโทรศัพท์มือถือ มีขนาดเล็ก เพียงขนาด 4*4 cm. มาพร้อมการ์ดที่พิมพ์สวยงามมีช่องทางโซเซียลให้ติดต่อ ใช้ง่ายแต่ประโยชน์เยอะ 


    นอกจากGriptokเป็นของพรีเมี่ยมที่เล็กแต่แจ๋ว ราคาถูก ทำให้ทางแบรนด์สามารถดูแลการจัดส่งและจัดเก็บได้ไม่ยาก ต้นทุนการส่งของพรีเมี่ยมก็ไม่สูง ก่อนส่งเราอาจจะข้อมูล ชื่อ เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล์ เพื่อจัดส่ง ทำให้ได้ทั้งใจลูกค้า และได้ทั้งข้อมูลลูกค้ามาพัฒนาต่อยอดได้

  2. Griptok เล็กๆ พลังไม่เล็ก ด้วยสร้างเรื่องราว : บอกเล่าความพิเศษของเมล็ดกาแฟ ที่มาของเมนู หรือประสบการณ์แปลกใหม่มานำเสนอให้ลูกค้าได้รับรู้ อาจออกเป็นคอลเล็คชั่นของให้สะสมคู่กับการซื้อกาแฟเมนูพิเศษ

    หรือซื้อกาแฟเมนูพิเศษพร้อมรับของที่ระลึกเป็นGriptok น่ารักๆ ถือเป็นวิธีที่ทรงพลังในการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้มีความน่าเชื่อถือ ทุกครั้งที่เห็น Griptok ติดมือถือก็จะนึกถึงรสชาติของกาแฟเมนูนั้นให้กาแฟครั้งนั้นเป็นที่หนึ่งในใจตลอดกาล

    หรือตอกย้ำไปอีกแบบจุกๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้กับร้านผ่านการเช็กอินพิกัดร้าน ให้เกิดการบอกต่อ ไอเดียที่สามารถรองเอาไปทำกันได้ เช่น ลองสำรวจดูว่าช่วงเวลาไหนที่คนค่อนข้างน้อย ลองใช้ที่ติดมือถือกริ๊บต๊อกมากระตุ้น ให้ลูกค้าเช็คช่วงเวลาดังกล่าวพร้อมรับของพรีเมี่ยม สุดเก๋ๆ อย่างที่ติดมือถือไปเลย


    ถือว่าเป็นการกระตุ้นความสนใจในช่วงเวลาที่คนน้อย แถมมาสั่งซื้อกาแฟช่วงนี้คิวไม่เยอะ บริการประทับใจไปได้อีกต่อ ดีกว่ารวบรวมคนให้มาซื้อกาแฟในเวลาเดียวกัน ในช่วงเร่งรีบซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาขายดีอยู่แล้ว คนเยอะมากแล้ว ร้านกาแฟก็อาจจะให้บริการไม่ทั่วถึงได้

    ของพรีเมี่ยม ของแจกอยาก Griptok ติดหลังมือถือ จึงกลายเป็นไอเท็มน่าลอง ที่จะให้ลูกค้าที่ไม่ชอบความเร่งรีบมาเช็คอิน แล้วอวด Griptok exclusice item สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของร้านเราไปเลย

  3. โชว์ Griptok ติดมือถือก่อนซื้อ เพื่อส่วนลด :  กลยุทธ์ดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ ปกติโปรโมชั่นง่ายๆ ของการดึงลูกค้าเก่ามาใช้บริการใหม่คือการซื้อ 1 แถม 1 ซึ่งจะเกิดต้นทุนใหม่ที่ลดลงไปในทุกๆแก้วใหม่ที่ซื้อ แต่การโชว์ Griptok ด้านหลังมือถือ เพื่อรับส่วนลดเป็นการลงทุนกับของพรีเมียมครั้งเดียว ที่ลูกค้าเก่าสามารถเอามาใช้ใหม่ได้


    ซึ่ง Griptok น่ารักที่สามารถมาแสดงเพื่อรับส่วนลดอาจเกิดจากการแลกซื้อ หรือรวมรายการทางการตลาดของทางร้าน และสำหรับการกระตุ้นให้ชวนเพื่อนใหม่มาเป็นฐานลูกค้า ก็สามารถนำที่ติดมือถือพิมพ์ลาย อย่าง Griptok สวย มากระตุ้นเพื่อได้โปรโมชั่น โชว์ก่อนมีส่วนลดได้เช่นกัน

    เมื่อได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ต้องมัดใจด้วยกาแฟคุณภาพ เพราะลูกค้าคือรากฐานของความสำเร็จในทุกธุรกิจ เมนูเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยม กาแฟ ชา รสชาติมีเอกลักษณ์ และการบริการที่ดี จะกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

  4. แจก Griptok ให้ลูกค้าเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ เช่น ลูกค้าที่เกิดเดือนนี้สั่งกาแฟเมนูไหนก็ได้ ในราคาปกติ รับที่ติดมือถือ Griptok น่ารักแทนใจให้ได้สะสมไปเลย ที่สำคัญเพิ่มความน่ารักด้วยคำอวยพรลงบนการ์ดรองที่ติดหลังโทรศัพท์มือถือ ด้วยข้อความ วันเกิดคุณปีนี้มีเราเคียงข้างนะจ๊ะ... หรือ วันเกิดปีนี้จะไม่เหงาเพราะกาแฟร้านเราทำช่วยให้คุณมีความสุข เป็นต้น

    นอกจากวันเกิดที่เราสามารถผลิตที่ติดมือถือกลมๆ น่ารักๆ ให้กับลูกค้าของเราแล้ว ยังสามารถออกแบบ collection สำหรับวันสำคัญอื่นๆ ได้เช่น วันวาเลนไทน์ วันคริสต์มาส วันปีใหม่ พร้อมๆ กับการตกแต่งร้านที่สวยงามต้อนรับเทศกาล ทำให้ร้านกาแฟเรามีเรื่องราวให้น่าติดตาม ลูกค้าที่มาใช้บริการก็จะรู้สึกสนุกตื่นเต้นและอยากติดตามกิจกรรม เพื่อรับของสะสมน่ารัก ๆ กลับไป



    ต่อยอดจากไอเดียการแจก Griptok มือถือ สั่งทำเพื่อเป็นของขวัญตามเทศกาล คือการผลิตกริ๊บต๊อก (Griptok) เป็นของชำร่วย สาเหตุที่เชื่อมโยงกับร้านกาแฟ เพราะว่าร้านกาแฟหลายร้าน มี Cafe and restaurant ที่ทั้งขายเครื่องดื่มและอาหารในร้านเดียวกัน

    อีกทั้งร้านกาแฟก็ตกแต่งร้านไว้สวยงาม จึงทำให้บ่าว-สาวจำนวนไม่น้อย มองว่าร้านเหล่านี้เหมาะเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ในฐานะเจ้าของร้านกาแฟจึงมองว่าตรงนี้ คือ โอกาสที่จะได้ต่อยอดรายได้ ทั้งให้เช่าสถานที่และจัดหา Griptok ของชำร่วย สวยๆ ที่ฟังก์ชั่นงานเจ๋ง ไอเท็มดีๆ ที่แขกที่มาร่วมงานต้องว้าว กับของแจกอย่างแน่นอน

  5. ทำบัตรสะสมแต้ม เพื่อแลกของพรีเมี่ยม : โดยร้านกาแฟหลายร้านก็นิยมใช้กลยุทธ์นี้เพื่อกระตุ้นการตลาดของตัวเอง เป็นกลยุทธ์ที่รักษาฐานลูกค้าเก่าให้มาซื้อซ้ำ หากสะสมครบก็อาจแลกเป็นของรางวัลได้ ( อ่านเพิ่มเติม : โปรโมทแบรนด์แบบเนียนๆด้วยของพรีเมี่ยมให้ปังค์ดั่งพญาอินทรีย์ )

    ซึ่งของรางวัลอาจเป็นแก้วกาแฟ กระเป๋าผ้า ที่ติดหลังมือถือ ( Griptok) เป็นต้น ซึ่งการกำหนดของรางวัลควรเริ่มจากของที่มูลค่าไม่สูงมาก เพื่อผู้สะสมจะได้มีกำลังใจให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายๆ และกริ๊บต๊อกเองก็ไปตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะต้นทุนเริ่มต้นที่ 45 บาทต่อชิ้น สำหรับ 100 ชิ้น


    ในทุกๆ เดือนอาจจะมีการเคลียร์ยอดสะสมเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าได้ติดตาม การสะสมยอดไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ดูยากจนเกินเอื้อม แต่ก็ไม่ง่ายจนทำให้ของที่ระลึก ของแจก ดูไม่มีมูลค่าให้น่าสะสม

    ที่ทำได้คือ ร้านต้องมีการออกแบบคอลเล็คชั่น หรือเปลี่ยนดีไซน์ของ Griptok พิมพ์ลายบ้างตามคอนเซ็บที่เปลี่ยนไป ซึ่งการออกแบบ Griptok ตามแบบ collection สามารถปรึกษาเพราะทางเรามีทีมออกแบบที่ติดหลังโทรศัพท์มือถือ Griptok ให้แบรนด์กาแฟฟรี


เรียกได้ว่าจุใจแบบพิเศษใส่ไข่สำหรับไอเดียการนำกริ๊บต๊อก (Griptok) ไปประยุกต์ใช้สำหรับร้านกาแฟ ซึ่งcoffee griptok สร้างแบรนด์ของสะสมมัดใจลูกค้าร้านกาแฟ อาจทำให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟหรือนักการตลาดที่ต้องการเจาะกลุ่มคอกาแฟพอได้เห็นภาพ

Griptok หรือ Pop socket เป็นของพรีเมี่ยม ของที่ระลึกกระตุ้นทางการตลาดได้เป็นอย่างดี ด้วยความเล็กกระทัดที่แจกง่าย เพราะของพรีเมี่ยมปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ ถึงจะมี impact ต่อกลุ่มเป้าหมาย

การหาของแจกของแถมเล็กที่ impact ใช้งานได้จริง ออกแบบได้ แสดงถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์คุณได้ คือหัวใจสำคัญ และที่สำคัญคือ เป็นของแถม ของพรีเมี่ยมที่ทุกคนได้รับแล้วนำไปใช้ได้จริงๆ ต้นทุนไม่สูง สามารถต่อยอดเป็นสินค้าที่สร้างรายได้

เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดกาแฟ เราก็สามารถเป็นที่หนึ่งได้ด้วยการชนะใจลูกค้าจากความคิดสร้างสรรค์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความใส่ใจในงานบริการและคุณภาพที่ดี ก็ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟอยู่ได้นานๆ สำหรับแบรนด์ที่สนใจอยากได้เดียผลิตกริ๊บต๊อคพรีเมี่ยมเพิ่มเติม ทางร้านของแนะนำ GRIPTOK ที่ติดมือถือดีๆ คู่เทศกาลผีในงานฮาโลวีนชวนสยอง

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
https://www.thaidesignguru.com
โทร 088-6532999 หรือแอดไลน์
LineID : @designguru (มี @ ด้านหน้า) หรือคลิกเพื่อสแกนคิวอาร์โค้ด