สาระน่ารู้กับการ ทำกระเป๋าผ้า รูปแบบ ถุงผ้าที่ระลึก

เดี๋ยวนี้ ใคร ๆ ก็อยากมีอาชีพเสริม ช่วยเพิ่มรายได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำเครื่องสำอาง แบรนด์เสื้อผ้าหรือ ผลิตถุงผ้า กระเป๋าผ้า พรีเมี่ยม สกรีน แฟชั่นสวยๆ การทำธุรกิจออนไลน์ หรือการทำแบรนด์สินค้าของตนเอง เป็นทางเลือกที่นิยมมากที่สุด และสร้างความมั่นคงได้ด้วย เพียงทำรูปสวย คงไม่พอ

อย่างการทำกระเป๋าผ้า พิมพ์ สกรีนโลโก้ เป็นแบรนด์ของตัวเอง อาจจะเริ่มจากการเตรียมแบบกระเป๋าผ้า และทำกระเป๋าผ้าให้ตรง ตามแบบ ตรงกับรูปที่ขาย เพราะการขายของออนไลน์ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือสต๊อคของก็สามารถขายของออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการขายกระเป๋าผ้า เนื่องจากตลาดการแข่งขันค่อนข้างกว้าง และมีคู่แข่งพอสมควร แต่สำหรับคนที่ต้องการจะเริ่มหารายได้ เทรนด์ ผลิตถุงผ้าลดโลกร้อน ก็ถือว่ามีช่องว่างทางตลาดอยู่ อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการวางแผนที่ดี

ตั้งแต่ ศึกษาลูกค้าแบรนด์กระเป๋าผ้า ( เพศ , อายุ , ความชอบส่วนตัว , พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ ) , ร้านหรือโรงงานสำหรับ รับผลิตกระเป๋าผ้า , เนื้อผ้ากระเป๋าพรีเมี่ยม , การออกแบบกระเป๋าผ้า, จำนวนขั้นต่ำของการสั่งทำกระเป๋าผ้า ซึ่งตรงนี้สำคัญมากเพราะ โรงงานทำถุงผ้า ส่วนใหญ่จะต้องการข้อมูลนี้จากลูกค้า ร่วมถึงระยะเวลาของการผลิตกระเป๋าผ้า เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ทางแบรนด์ต้องการนำสินค้าไปใช้เพื่อประชาสัมพันธ์  นอกจากนี้ก็จะมีช่องทางการนำ กระเป๋าพรีเมี่ยม สั่งผลิต ไปวางขาย ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้ เราสามารถต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มยอดขายได้ในอนาคต

 

ก่อนทำธุรกิจออนไลน์ ขายกระเป๋าผ้า มี 9 สิ่งที่ต้องเตรียมดังนี้

1. ชื่อร้านกระเป๋าผ้า หรือชื่อแบรนด์

เพราะชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง จำไว้เลยว่าการตั้งชื่อร้านขายของออนไลน์ที่ดี อาจจะมากกว่าความชื่นชอบส่วนตัวบางเล็กน้อยแต่ ไม่สามารถตั้งชื่อร้าน ตามใจเราเองได้ 100 % กรณีนี้ขอพูดเน้นเฉพาะผู้ที่เริ่มทำแบรนด์กระเป๋าผ้า ถุงผ้าเป็นของตัวเอง เมื่อเรามีแบบกระเป๋าผ้า ที่ขายที่ต้องการแล้ว ก็มานึกถึงชื่อแบรนด์กันบ้าง เพราะส่วนนี้จะโยงถึงการออกแบบ เพื่อ พิมพ์โลโก้ และ สกรีนข้อความ บนตัวกระเป๋าผ้า ชื่อแบรนด์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อแปลกตา ไม่ซ้ำใคร หรือเป็นชื่อที่ความหมายเข้าใจยาก เพราะอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนได้ เทคนิคการตั้งชื่อร้านกระเป๋าผ้า ต้องอ่านง่าย เข้าใจง่าย กระชับ มีความคุ้นหู และสร้างความจำได้ง่าย ตัวอย่างเช่น แบรนด์รองเท้า มักจะมีคำว่า shoes หรือ sneaker , แบรนด์กระเป๋า มีคำว่า bag , แบรนด์นาฬิกา มีคำว่า time หรือ watch เป็นต้น 

เพราะการมีคีย์เวิร์ด ช่วยให้ลูกค้าค้นหาแบรนด์เราได้ง่ายมากขึ้น จากช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Google , Facebook , Instagram 

 

2. แบบและดีไซน์ของกระเป๋าผ้า

หากเรามีดีไซน์กระเป๋าที่ต้องการ หรือรูปแบบที่ชอบ ก็จะยิ่งทำให้การสร้างอารมณ์ร่วมเกี่ยวกับสินค้า ให้ลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น ตั้งแต่การให้ข้อมูลสินค้า จะมีรายละเอียด ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์การใช้งานกระเป๋าผ้า หรือโน้มน้าวให้เกิดการซื้อได้ดี รวมถึงการสรุปแบบให้โรงงานผลิตกระเป๋าผ้า เพื่อทำกระเป๋าผ้า ตามแบบที่เราต้องการได้  การออกแบบถุงผ้า กระเป๋าผ้า นอกจากรูปทรงของกระเป๋าผ้าที่ควรให้ความสำคัญ การให้สีสันของลายพิมพ์ก็ควรให้น้ำหนักไม่แพ้กันเพราะการ สั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์สกรีน จำนวนสีมีผลต่อราคาของสินค้าซึ่งจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มเข้ามา

หากแบรนด์สินค้ามีวัตถุผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อเป็น กระเป๋าผ้าแจกลูกค้า อาจให้สีสันไม่มากเพียงใช้เนื้อผ้าสีพื้นล้วน เช่น ดำล้วน ขาวล้วน แล้วพิมพ์สกรีนข้อความด้วยสีดำ ตัดกับสีกระเป๋าก็เป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ถ้าเราทำกระเป๋าเพื่อขายอาจจะต้องเน้นสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา ดังนั้นการ สั่งผลิตกระเป๋าผ้า จะคำนึงถึงโทนสีที่ตรงกับภาพลักษณ์มากขึ้น เช่น Supreme จะใช้เน้นสี แดง น้ำเงิน  Starbucks เน้นสีเขียว เป็นต้น

แต่หากใครที่ไม่ได้ชื่นชอบขนาดนั้น แต่อยากมีร้านกระเป๋าผ้าออนไลน์ เป็นของตนเอง อาจจะเริ่มด้วยการหาข้อมูลก่อน ว่าเราจะขายกระเป๋าอะไร ซึ่งในท้องตลาด กระเป๋าที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ กระเป๋าผ้าแฟชั่น , กระเป๋าผ้าสกรีนลาย , กระเป๋าเป้ , กระเป๋านักเรียน , ถุงผ้าลดโลกร้อน เป็นต้น ซึ่งเราสามารถสอบถามรายละเอียด หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับเนื้อผ้าพรีเมี่ยม การออกแบบ กระบวนการผลิตกับทางโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าได้เลย

 

 

3. การเตรียมเงินทุน

มีเพียงกระเป๋าผ้า อาจจะยังไม่สามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ แล้วอะไรบ้างที่เราควรเตรียมตัวเผื่อใจไว้ เพื่อให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างมั่นคง เพราะถุงผ้า กระเป๋าผ้า เป็นเพียงสินค้าเพื่อให้คุณขายเพื่อสร้างรายได้แต่การขายสินค้ามีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก ซึ่ง โรงงานผลิตกระเป๋าผ้า thaidesignguru.com อยากให้ลูกค้าของเราเติบโตได้อย่างมั่นคง จนมีอาชีพที่สร้างรายได้อย่างงดงาม โดยเตรียมเงินทุนเพื่อส่วนต่างๆ เช่น

• การแพ็คสินค้า ตรงนี้ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ หากบรรจุภัณฑ์ของเราดูดีพอ , การจัดส่งสินค้า  หากเรามีผู้ให้บริการส่งสินค้าหลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้ก็จะเพิ่มความพอใจด้านการบริการได้
• ค่าโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ ควรจัดงบประมาณให้เหมาะสมเพราะถ้าน้อยเกินไปก็อาจจะไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เงินที่ลงโฆษณาไปไม่เห็นผลตามที่ต้องการได้
• การจ้างคน เช่น จำเป็นไหมต้องมีคนเคยรับออเดอร์ คอยช่วยแพ็คสินค้า ฯลฯ แต่ถ้าเราเริ่มต้นธุรกิจขายกระเป๋าผ้า เราสามารถทำทุกตำแหน่ง เราจะไหวไหม เป็นต้น

เงินทุนดังกล่าว  ควรแยกออกมาจากการขายกระเป๋าผ้า เพราะเป็นเงินทุน ที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต และช่วยให้เราทราบถึงกำไรที่แท้จริง ในการขายกระเป๋า และวางแผนการเงินอื่น ๆ เผื่อไว้ด้วย เช่น การออกแบบกระเป๋าแฟชั่น ดีไซน์ใหม่ๆ , การซื้อโดเมนเว็บไซต์ , การเสียภาษี เป็นต้น

 

4. การวางจุดยืนของร้านค้า

เราควรมีการวางตำแหน่งของแบรนด์ให้แน่นอน ว่าเราอยากเป็นร้านค้าขายส่ง หรือร้านค้าขายปลีก ทั้งสองแบบมีความโดนเด่น และข้อดี - ข้อเสียที่ต่างกัน เช่น 

• ร้านค้าขายส่ง : ใช้เงินทุนมาก เน้นการขายจำนวนมาก กำไรน้อย แต่ได้เงินที่จำนวนมากมาย คู่แข่งน้อยกว่า ส่งออกไปตลาดได้ง่ายกว่า
• ร้านค้าขายปลีก : ใช้เงินทุนน้อยกว่า เน้นขายเอากำไรมาก มีตัวเลือกให้ลูกค้าเยอะกว่า แต่คู่แข่งเยอะกว่า เน้นการขายสินค้าแบบตัวต่อตัวกับลูกค้า 

อยู่ที่เงินทุน และการวางจุดยืนของตนเอง รวมถึงการวางแผนธุรกิจด้วย เพราะทั้งสองอย่างสร้างรายได้เสริมให้คุณได้ หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นรายได้หลักในอนาคตได้เลย

 

5. ช่องทางการซื้อขายออนไลน์ ของแบรนด์กระเป๋าผ้า

เพราะช่องทางออนไลน์ มีให้เราเลือกมากมาย โดยเฉพาะผู้ขายปลีก การเลือกช่องทางออนไลน์ที่เหมาะสม ทำให้เราเพิ่มยอดขาย หรือทำการโฆษณาออนไลน์ได้ง่ายขึ้น สำหรับช่องทางออนไลน์ที่นิยม เช่น Facebook , Instagram , Lazada , Shoppee , Kaidee.com เป็นต้น หรือเราสามารถวางขายกระเป๋าผ้าแฟชั่น บนเว็บไซต์ของเราเองก็ได้ เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่มีความน่าเชื่อถือและเสถียรมากที่สุด ว่ากันว่า Social Media เปรียบเสมือนร้านค้าเช่า แต่เว็บไซต์ เปรียบเสมือนร้านค้าสิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง 

( ติดตามเพิ่มเติม : เคล็บลับ : การสร้าง Website แบรนด์กระเป๋า ดีอย่างไร ? )

 

 

6. การวางกลยุทธ์ทางการตลาด

เป็นการวางแผนดึงจุดเด่นของร้านกระเป๋าผ้า เพื่อให้ชนะใจลูกค้าและคู่แข่งได้ เริ่มตั้งแต่ การแนะนำร้านกระเป๋าผ้าให้เป็นที่รู้จักบนช่องทางออนไลน์ ถึงแม้เราจะมีสินค้าที่คุณภาพ ราคาถูกแล้ว แต่การวางแผนการตลาดจะช่วยให้เรา ขายสินค้าออนไลน์ไปในทางที่ถูกต้อง เข้าหากลุ่มลูกค้าที่อาจจะเป็น เป้าหมายของเราได้ เราสามารถทำได้โดย การโปรโมทร้าน , โปรโมทสินค้า หรือจะทำไปพร้อม ๆ กันก็ได้ เริ่มต้นจากขั้นตอนดังนี้

• การวางเป้าหมายที่ชัดเจน
• การวางแผนในแต่ละขั้นตอน เช่น เริ่มต้นอย่างไรเพื่อให้เป็นที่รู้จัก , การจัดการส่งสินค้า ,เมื่อขายสินค้าได้แล้ว สต๊อคของเท่าไหร่ให้เพียงพอ เป็นต้น
• การวางงบประมาณให้เพียงพอ
• การกำหนดเวลาเพื่อประเมินผล เช่น ขั้นตอนเริ่มธุรกิจ ช่วง 3 - 6 เดือนแรก เมื่อครบกำหนดแล้ว นำมาประเมินผลเพื่อปรับ หรือแก้ไขแนวทางธุรกิจต่อไป

7. ช่องทางการชำระเงิน 

เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และยังทำให้ ลูกค้าเกิดความรู้สึกประทับใจได้ด้วย ยิ่งเรามีช่องทางการชำระเงินมากเท่าไหร่ ยิ่งดี ถึงแม้ว่า ในปัจจุบัน ธนาคารต่าง ๆ สนับสนุนการทำธุรกิจออนไลน์ ด้วยการลดค่าธรรมเนียม การโอนเงินต่างธนาคารบน Application เหลือเพียง 0 บาทแล้ว แต่ในช่องทางอื่น ๆ เช่น การชำระผ่านบัตรเครดิต , บัตรเดบิต , Paypal หรือแม้แต่การชำระเงินปลายทาง ก็เป็นที่นิยมในตอนนี้ 

 

8. มีความมุ่งมั่น และอดทน ในการทำธุรกิจกระเป๋าผ้าออนไลน์

การทำธุรกิจต้องอาศัยความอดทน ไม่มีใครสำเร็จตั้งแต่วินาทีแรก หรือได้กำไรทันทีที่เปิดร้านค้า เพราะลูกค้าไม่อาจจะเห็นเราเป็นตัวเลือกรายแรก ๆ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องวางแผนการตลาดให้ดี จะสื่อสารร้านค้าของเราออกมาอย่างไร โฆษณาอย่างไร หรือออกแบบกระเป๋าผ้าอย่างไร ให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด ไม่ควรท้อแท้ หรือลดราคาเกินไปเพื่อเรียกลูกค้า เพราะอาจจะส่งผล ถึงภาพลักษณ์สินค้าของเราได้ เราต้องมีความมั่นใจ และมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ เน้นความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอความแปลกใหม่ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ดีที่สุด

 

9. การวางแผนเรื่องเวลา

วาง Timimg ในการดำเนินการเรื่องธุรกิจ โดยเฉพาะ สำหรับใครที่อยากทำกระเป๋าผ้า เพื่อเป็นอาชีพเสริม เราต้องมีการแบ่งเวลาให้ดี เพราะการทำธุรกิจออนไลน์ต้องอาศัยการทุ่มเท ใส่ใจเช่นเดียวกัน หากเราละเลยในส่วนนี้ อาจจะทำให้ลูกค้า เปลี่ยนไปซื้อของออนไลน์ กับร้านค้าอื่นก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น การตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการแสดงความใส่ใจให้กับลูกค้าได้

 

เมื่อเรามีทุกอย่างตามที่ นำเสนอไปข้างต้นแล้ว ไปดูกันว่า พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของลูกค้า ในปี 2019 เป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ ไปดูกัน

 

 

การศึกษา พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของลูกค้า เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยชี้วัดอัตราการเจริญเติมโตของธุรกิจได้ พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ ในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เพราะเรามีเทคโนโลยี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเราจะแบ่งพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ ออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

 

1. การมองเห็นสินค้า ( See )
   ก่อนการซื้อสินค้า หรือบริการบนช่องทางออนไลน์ ลูกค้าในยุคนี้ มักจะเน้นการค้นหาผ่าน platform ต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ Google ”  สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง ก็คือ การสร้างตัวตนให้เกิดบนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มการมองเห็นแบรนด์เราได้มากขึ้น สำหรับตัวช่วย ที่สามารถเพิ่มการมองเห็นนั้น ได้แก่ 

• • • การสร้าง Content : เป็นสิ่งที่หลักการตลาดออนไลน์ นิยมใช้มากที่สุด การสร้าง content ที่ดี มีคุณภาพภาพ จะช่วยเพิ่มการมองเห็น แบรนด์กระเป๋าเราได้ง่ายขึ้น ประเภทของ Content ก็มีด้วยกันหลากหลายแบบ เช่น บทความ , วิดีโอ , รูปภาพ , กราฟฟิค สำหรับกระเป๋าผ้า การทำวิดิโอและภาพที่มีความละเอียดชัด จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ร้านค้า ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า อาทิเช่น ขนาดกระเป๋าผ้า , สี , เนื้อผ้า เป็นต้น
    • โฆษณาบนช่องทางออนไลน์ : หากเรามีงบประมาณในการทำส่วนนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มการมองเห็นมากขึ้น เพราะการทำเฉพาะ content อาจจะยังไม่เพียงพอ ต่อการมองเห็นแบรนด์เรา และก่อนทำการยิงโฆษณา เราต้องทำการศึกษาและวางแผนให้ดี 
    • กิจกรรมร่วมสนุก กระตุ้นลูกค้า : เราสามารถสร้างกิจกรรม บนออนไลน์เพื่อการตุ้นการรับรู้ให้ลูกค้าได้ เช่น การทำกระเป๋าผ้าแจกลูกค้า , การทำโปรโมชั่น เมื่อลูกค้ากด Like&Share เพจของเรา เป็นต้น

2. การค้นหา เพื่อเปรียบเทียบสินค้า ( Search )
   เป็นพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน ที่มักจะค้นหา เพื่อเปรียบเทียบราคา , คุณภาพสินค้า และข้อเสนอต่าง ๆ ของแบรนด์สินค้า รวมถึงการรีวิวสินค้า มีอิทธิพลอย่างมาก ในการตัดสินใจซื้อ ยิ่งมีการรีวิวในด้านบวกมาก การตัดสินใจซื้อสินค้าก็ง่ายขึ้น ซึ่งลูกค้ามักจะค้นหา ผ่านเว็บบอร์ด เช่น pantip หรือการติด Hashtag # นั่นเอง สำหรับวิธีที่จะช่วยเพิ่มการค้นหา ได้แก่ 

• • • การใช้ SEO : ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือ ทำบทความ SEO เราจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ของแบรนด์กระเป๋าผ้าเสียก่อน เพราะบทความ SEO เป็นเครื่องมือที่ตอบสนองกับเว็บไซต์ มากกว่า Social Media และมีส่วนช่วยในการสร้าง Search engine เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณ ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ในการค้นหา นอกจากนี้ เราควรมีการอัพเดทเว็บไซต์ และบทความอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อให้เว็บไซต์ของเรา อยู่ในอันดับตลอดเวลา
    • การใช้ Google Ads : ตัวช่วยในการเพิ่มการมองเห็น และยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น ในร้านค้าออนไลนืของเราอีกด้วย

3. การค้นหาร้านค้า ผ่าน Market Place ( Shop / Office )
   คำว่า Market Place ในที่นี้ หมายถึง ตลาดออนไลน์ที่รวบรวมแบรนด์ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ในไทย ที่นิยมใช้งานมากที่สุด เช่น Lazada , Shopee , Kaidee ฯลฯ เนื่องจากตลาดออนไลน์ ช่วยทำให้ลูกค้าเปรียบเทียบราคาสินค้า ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น พร้อมรับโปรโมชั่นต่าง ๆ ด้วย เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องลงทะเบียนร้านค้า บนช่องทางตลาดออนไลน์นี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงมากขึ้นด้วย เคล็ดลับการขายกระเป๋าผ้าบน Market Place คือ การนำเสนอรูป , วิดีโอที่มีความละเอียดสูง , การให้รายละเอียดสินค้า และการเข้าร่วมโปรโมชั่น ของทาง Market Place ด้วย

4. การบริการที่สร้างความประทับใจ ( Service )
   เป็นหัวใจสำคัญ ในการขายของออนไลน์ เราจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้น หรือไม่ ? อยู่ที่การบริการของเรา การใส่ใจในการตอบคำถาม ความกระตือรือร้น ในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนการขาย , ระหว่างการขาย และหลังการขาย เราสามารถสร้างความประทับใจ ให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ ยังสามารถความภักดี ( Loyalty ) ก่อให้เกิดการซื้อซ้ำ ในแบรนด์กระเป๋าผ้าได้ด้วย 

 

ทั้งหมดนี้ หากคุณทำความเข้าใจ ในพฤติกรรมของลูกค้าแล้ว ก็สามารถนำมาประยุกต์กับการวางแผนการตลาดอื่น ๆ ได้ และช่วยให้ผลลัพธ์ทางการตลาด ได้ผลกำไรและยอดขายที่ดีด้วย ไม่ว่าแบรนด์กระเป๋าผ้าของคุณ จะมีดีไซน์อย่างไร ก็โดนใจลูกค้าได้อย่างง่ายดี

 

ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru

Line : @designguru

Tel : 088 - 653 - 2999